เคยได้ยินคำพูดที่ว่า "คนเรานานๆทีจะมีโอกาสทำความดีครั้งใหญ่ แต่ถ้าเป็นความดีเล็กๆน้อยๆจะมีโอกาสทุกวัน"
ผมทำงานด้าน IT ดูแลหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือกล้องวงจรปิด ผมอยู่หอพักของบริษัท ซึ่งแน่นอนในหอพักนี้
จะมีพนักงานอยู่ตั่งแต่ระดับพนักงานรายวัน วันละ 300 ถึงระดับหัวหน้างานรายได้เดือนหลายหมื่น
ผมอยู่ในระดับกลางๆค่อนไปทางบนๆหน่อย
เมื่อวานซืนตอนเที่ยง ผมได้กลับเข้าหอพักเพื่อเอาของ มีพนักงานมากมายกลับหอพักเพื่อทานข้าวเที่ยง
ผมเดินกำลังจะเข้าหอพัก ก็ได้เหลือบตาไปเห็น แบ๊งค์ 20 บาท ใบเขียวๆ ตกอยู่ ผมเก็บมันขึ้นมามองซ้ายมองขวา
เพื่อหาเจ้าของ (ตอนหลังดูในกล้องเหมือนคนลน เก็บเงินได้กลัวคนเห็นเลย) มองไม่เห็นใครผมก็ขึ้นหอพักก่อน
เดินไปถามพี่ที่อยู่แถวนั้น เขาบอกไม่รู้ของใครก็เก็บๆไปเหอ แหม่ แค่ 20 บาท
พอตอนบ่ายผมกลับมาที่ทำงานพอสะสางงานเสร็จผมก็เปิดกล้องย้อนหลังดู นั่งดูอยู่ซักพักก็เจอคนทำตก เป็นในบริษัท
ก็อยู่แล้วละ หอพักบริษัทนิ ผมโทรหาเขาบอกให้เขามาเอาเงินคืน เขาก็ขอบคุณตามมารยาท ผมรู้สึกดีนะ
ลองมองกลับกัน สมมุติผมเก็บเอาไว้ละ แหม่แค่ 20 บาทเอง โกโก้ปั่นแก้วเดียวยังซื้อไม่ได้เลย แต่ถ้าเจ้าของของ 20 บาทนี้
เป็นพนักงานพม่า มันอาจจะเป็นข้าวหนึ่งมื้อของเขาเลยก็ได้
ถ้าสมมุติเป็นแบ๊งค์พัน เราอาจจะคิด อืมก็ดีนะกินชาบูได้ตั่งเกือบ 3 คน แต่กับบางคนมันอาจจะเป็นเงินค่าเช่าห้อง ค่าที่ซุกหัวนอน
ของเขาทั้งเดือนเลยก็ได้
เพราะฉะนั้น ถ้าเก็บเงินได้อย่าให้ความโลภมาครอบงำแม่มันจะไม่ใช่ความโลภอาจจะเป็นความขี้เกียจหาเจ้าของ แหม่แค่นี้เอง
ถ้ามันเป็นเงินของคนมีเงินเจ้าของเงินอาจจะเฉยๆ แต่ถ้ามันเป็นเงินของคนหาเช้ากินค่ำ แค่ 5 บาท ก็มีค่าสำหรับเขา
ปล. ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่ค่อยมีเงินแล้วทำเงินหายนะ เพราะผมก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน ตอนจบใหม่ๆออกมาทำงาน
เอาเงินออกจากบ้านมาพอดี ขากลับบ้านตอนลงรถเมย์เหรียญบาทหล่นหาย เหลือเงิน 4 บาท นั่งรถต่อไม่ได้ ต้องเดินกลับระยะ
ทาง 4 กิโล ผมเลยเข้าใจ
รู้ไหมว่า 20 บาท ของคนเรามันไม่เท่ากัน
ผมทำงานด้าน IT ดูแลหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือกล้องวงจรปิด ผมอยู่หอพักของบริษัท ซึ่งแน่นอนในหอพักนี้
จะมีพนักงานอยู่ตั่งแต่ระดับพนักงานรายวัน วันละ 300 ถึงระดับหัวหน้างานรายได้เดือนหลายหมื่น
ผมอยู่ในระดับกลางๆค่อนไปทางบนๆหน่อย
เมื่อวานซืนตอนเที่ยง ผมได้กลับเข้าหอพักเพื่อเอาของ มีพนักงานมากมายกลับหอพักเพื่อทานข้าวเที่ยง
ผมเดินกำลังจะเข้าหอพัก ก็ได้เหลือบตาไปเห็น แบ๊งค์ 20 บาท ใบเขียวๆ ตกอยู่ ผมเก็บมันขึ้นมามองซ้ายมองขวา
เพื่อหาเจ้าของ (ตอนหลังดูในกล้องเหมือนคนลน เก็บเงินได้กลัวคนเห็นเลย) มองไม่เห็นใครผมก็ขึ้นหอพักก่อน
เดินไปถามพี่ที่อยู่แถวนั้น เขาบอกไม่รู้ของใครก็เก็บๆไปเหอ แหม่ แค่ 20 บาท
พอตอนบ่ายผมกลับมาที่ทำงานพอสะสางงานเสร็จผมก็เปิดกล้องย้อนหลังดู นั่งดูอยู่ซักพักก็เจอคนทำตก เป็นในบริษัท
ก็อยู่แล้วละ หอพักบริษัทนิ ผมโทรหาเขาบอกให้เขามาเอาเงินคืน เขาก็ขอบคุณตามมารยาท ผมรู้สึกดีนะ
ลองมองกลับกัน สมมุติผมเก็บเอาไว้ละ แหม่แค่ 20 บาทเอง โกโก้ปั่นแก้วเดียวยังซื้อไม่ได้เลย แต่ถ้าเจ้าของของ 20 บาทนี้
เป็นพนักงานพม่า มันอาจจะเป็นข้าวหนึ่งมื้อของเขาเลยก็ได้
ถ้าสมมุติเป็นแบ๊งค์พัน เราอาจจะคิด อืมก็ดีนะกินชาบูได้ตั่งเกือบ 3 คน แต่กับบางคนมันอาจจะเป็นเงินค่าเช่าห้อง ค่าที่ซุกหัวนอน
ของเขาทั้งเดือนเลยก็ได้
เพราะฉะนั้น ถ้าเก็บเงินได้อย่าให้ความโลภมาครอบงำแม่มันจะไม่ใช่ความโลภอาจจะเป็นความขี้เกียจหาเจ้าของ แหม่แค่นี้เอง
ถ้ามันเป็นเงินของคนมีเงินเจ้าของเงินอาจจะเฉยๆ แต่ถ้ามันเป็นเงินของคนหาเช้ากินค่ำ แค่ 5 บาท ก็มีค่าสำหรับเขา
ปล. ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่ค่อยมีเงินแล้วทำเงินหายนะ เพราะผมก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน ตอนจบใหม่ๆออกมาทำงาน
เอาเงินออกจากบ้านมาพอดี ขากลับบ้านตอนลงรถเมย์เหรียญบาทหล่นหาย เหลือเงิน 4 บาท นั่งรถต่อไม่ได้ ต้องเดินกลับระยะ
ทาง 4 กิโล ผมเลยเข้าใจ